รวมบทสวดมนต์และคำกล่าวไว้อาลัยใน “พิธีลอยอังคาร” ที่ดีที่สุด

รวมบทสวดมนต์และคำกล่าวไว้อาลัยใน “พิธีลอยอังคาร” ที่ดีที่สุด

ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทุก ๆ พิธี เราทุกคนคนไทยคงจะคุ้นชินกับบทสวดต่าง ๆ กันอยู่แล้ว แต่ละบทสวดก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป ทุกบทสวดมีความศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงไปด้วยคติธรรมสอนใจ พิธีลอยอังคารก็มีบทสวดที่สำคัญเช่นกัน สวดไปพร้อม ๆ กับล่องเรือลอยอังคาร กลีบดอกไม้สด น้ำอบ โปรยลอยลงไปในสายน้ำที่เย็นสบาย เพื่อนำส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปสู่สุคติ

คำกล่าวบูชา/ขออนุญาตแม่ย่านางเรือ

เริ่มแรกก่อนการล่องเรือลอยอังคารจะต้องมีการบอกกล่าวแม่ย่านางเรือก่อนเสมอ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ว่า ๓ จบ )

นะมัตถุ นาวานิวาสินิยา เทวะตายะ อิมินา สักกาเรนะ นาวานิวาสินิง เทวะตัง ปูเชมิ.

ข้าพเจ้าขอน้อมไหว้บูชาแม่ย่านางเรือ ผู้คุ้มครองรักษาเรือลำนี้ ด้วยเครื่องสักการะนี้

ด้วยข้าพเจ้า พร้อมด้วยญาติมิตร ขออนุญาตนำอัฐิและอังคาร ของ ………………(ชื่อผู้วายชนม์) ลงเรือลำนี้ไปลอยในทะเล ขอแม่ย่านางเรือ ได้โปรดอนุญาตให้นำอัฐิและอังคารลงเรือได้ และได้โปรดคุ้มครองรักษา ให้ข้าพเจ้าและญาติมิตร กระทำพิธีลอยอัฐิและอังคารด้วยความสะดวกและปลอดภัย โดยประการทั้งปวงเทอญ.

คำกล่าวบูชา/กล่าวฝากอังคาร กับเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร

นะโม ตัสสะ/ ภะคะวะโต/ อะระหะโต/ สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ว่า ๓ จบ )

นะมัตถุ อิมัสสัง มะหานะทิยา อธิวัตถานัง สุรักขันตานัง สัพพะเทวานัง อมินา สักกาเรนะ สัพพะเทเว ปูเชมะ

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมไหว้บูชา เจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร และเทพยดาทั้งหลาย ผู้สถิตคุ้มครองรักษาอยู่ในทะเลนี้

ด้วยเครื่องสักการะนี้

ด้วยข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้ประกอบกุศลกิจ อุทิศส่วนบุญแด่ ………………(ชื่อผู้วายชนม์) และ ณ บัดนี้ จักได้ประกอบพิธี ลอยอัฐิและอังคารของ ………………(ชื่อผู้วายชนม์) พร้อมกับขอฝากไว้ในความอภิบาลของเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร เจ้าแห่งทะเล และทวยเทพทั้งปวง

ขอเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร แม่ย่านางเรือ และเทพยดาทั้งหลาย ได้โปรดอนุโมทนา ดลบันดาลให้ดวงวิญญาณของ………………(ชื่อผู้วายชนม์) จงเข้าถึงสุคติในสัมปรายภพ ประสพสุขในทิพยวิมานชั่วนิจนิรันดร์กาลเทอญ

คำกล่าวไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับ

ก่อนเสร็จพิธีล่องเรือลอยอังคาร ผู้ใกล้ชิด ญาติสนิทผู้ล่วงลับ ควรไว้อาลัยพร้อมกับตั้งอธิษฐานจิตขอขมากรรมในสิ่งที่เคยล่วงเกิน ไม่ว่าจะทั้งทางกาย วาจา และใจ พร้อมกับบทแผ่เมตตา และสุดท้ายกล่าวขอบคุณผู้ล่วงลับสำหรับสิ่งดี ๆ ที่เคยได้กระทำร่วมกันมาด้วย

ในการกล่าวไว้อาลัยนี้ ไม่มีพิธีการเฉพาะเจาะจง เพียงแค่กล่าวเอ่ยคำพูดที่ออกมาจากใจด้วยความสัตย์จริง เพื่อให้ ผู้ล่วงลับได้รับรู้แล้วจากไปอย่างมีความสุข

บทสวดมนต์และคำกล่าวในพิธีการล่องเรือลอยอังคารแก่ผู้ล่วงลับที่นำมาแบ่งปันกันนี้ เป็นบทเฉพาะที่มีประกอบพิธีจริง ส่วนหากอยากมีการให้สวดมนต์ส่งดวงวิญญาณเพิ่มเติมตามความเชื่อ ทางญาติของผู้ล่วงลับสามารถกระทำได้ไม่ผิดอะไรและไม่ได้ทำให้การทำให้พิธีลอยอังคารนี้ไม่สำเร็จบรรลุผล

ไม่ใช่เพียงส่งดวงวิญญาณ “พิธีลอยอังคาร” มีคุณประโยชน์มากกว่าที่คิด

ไม่ใช่เพียงส่งดวงวิญญาณ “พิธีลอยอังคาร” มีคุณประโยชน์มากกว่าที่คิด

การเติบโตของเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้เกิดสิ่งก่อสร้างใหม่เพิ่มมากขึ้น หลายคนมองว่าอัตราการเสียชีวิตมนุษย์เพิ่มขึ้นสูงกว่าในอดีต แต่ลืมนึกไปว่าอัตราการเกิดใหม่ก็มีเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ไหนยังจะมีผู้คนบางกลุ่มที่ยังมีอายุยืนอีกด้วย การใช้ทรัพยากรของมนุษย์จึงยังคงไม่ลดลง และมีแต่จะเพิ่มสูงมากกว่าเดิมจากอดีต

“พิธีลอยอังคาร” ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

เมื่อมีการแย่งการใช้ทรัพยากรมากขึ้น วัฒนธรรมและพิธีกรรมหลังความตายอย่างการฝังศพตามประเพณีความเชื่อนั้น จึงส่งผลกระทบต่อการใช้พื้นที่นั่นเอง การล่องเรือลอยอังคารจึงเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกได้ เพราะการฝังศพ 1 ชีวิต มีระยะเวลานานหลายปีกว่าลูกหลานจะขุดกระดูกของบรรพบุรุษมาเก็บไว้ วัฒนธรรมการฝังศพผู้ล่วงลับในปัจจุบันตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนไป แม้แต่ในศาสนาคริสต์บางพื้นที่ยังปรับเปลี่ยนมาเผากันบ้างแล้ว

ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่น ส่งผู้ล่วงลับสู่สันติสุข

นอกจากในเรื่องของการลดพื้นที่การเก็บอัฐิ หรือการฝังศพแล้ว การนำเถ้ากระดูกไปล่องเรือลอยอังคารทั้งหมด ไม่เก็บรักษาไว้ ไม่ได้แปลว่าคนที่ยังอยู่ต้องการตัดขาดหรืออยากลืมคนที่ล่วงลับไปแล้ว แต่เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในเรื่องของการ จองจำความคิด หรือการอาลัยอาวรณ์ การยึดติดกับสิ่งของที่ทำให้ไม่ปล่อยวาง

อย่างการยังเก็บอัฐิคนตายไว้ในบ้าน หากยังเห็นทุกวัน หลายคนก็ยังนึกถึงและเกิดความโศกเศร้าเสียใจ จนกลายเป็นตัดพ้อถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยกระทำไม่ดีต่อกันทั้งกาย วาจา ใจ แล้วย้อนกลับมาโทษตัวเอง จนเกิดความคิดลบ ๆ ส่งต่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นได้

แต่หากปล่อยวาง นำกระดูกไปล่องเรือลอยอังคารทั้งหมด ให้เหลือแต่ความทรงจำในใจ และส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปสู่สุคติ ตามความเชื่อแล้วจะดีต่อทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าหากฝ่ายคนที่ยังอยู่ยังทุกข์ใจ คิดถึง จะทำให้ดวงวิญญาณอยู่ไม่เป็นสุข ไปแล้วยังห่วงและเกิดความเศร้าหมองได้

ดังนั้น การนำอัฐิไปล่องเรือลอยอังคาร ไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องสภาพจิตใจ การใช้ชีวิตของคนที่ยังอยู่ให้ปรกติสุขแล้ว ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย ทำให้เกิดพื้นที่ว่างในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

พิธีลอยอังคารในต่างประเทศ แตกต่างจากบ้านเราแค่ไหน

พิธีลอยอังคารในต่างประเทศ แตกต่างจากบ้านเราแค่ไหน

หลายคนที่ได้ดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ต่างประเทศ จะมีซีนนั่งเรือแล้วทำพิธีการโปรยเถ้ากระดูกลอยสู่แม่น้ำ หรือที่เรียกว่าการล่องเรือลอยอังคารเหมือนบ้านเรา เชื่อว่าทุกคนคงตั้งคำถามไว้ในใจและสงสัยว่าการประกอบพิธีกรรมนี้ มีความแตกต่างจากบ้านเราอย่างไรบ้าง

ต้องมีการสวดมนต์หรือไหว้แม่ย่านางหรือไม่

จากข้อมูลส่วนใหญ่แล้ว การทำพิธีไหว้แม่ย่านางเรือ และเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร เห็นจะมีแค่เพียงในประเทศไทยกันส่วนมาก นั่นเป็นเพราะความเชื่อตามภูมิภาคที่ไม่เหมือนกัน หากจะโยงว่าในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีก็มีศาสนาพุทธเช่นเดียวกับของไทย ฉะนั้นการล่องเรือลอยอังคารย่อมต้องมีการนำสวดมนต์และขั้นตอนต่าง ๆ เหมือนกัน

แต่ถึงแม้ว่าทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี จะนับถือศาสนาพุทธด้วยเหมือนกัน แต่ก็เป็นคนละนิกายซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับความเชื่อ การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ค่อนข้างต่างกันมาก จึงฟันธงไม่ได้เลยว่าทุกประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ จะต้องมีขั้นตอนการลอยอังคารที่เหมือนกัน

ทำไมที่ต่างประเทศถึงต้องมีการลอยอังคารผู้ล่วงลับ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลย คือประเทศสิงคโปร์ที่ปัจจุบันหันมานำอัฐิของคนในครอบครัวไปล่องเรือลอยอังคารกันมากขึ้น เพราะชาวสิงคโปร์ได้หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น อีกทั้งประเทศนี้ยังมีพื้นที่คับแคบ ทางรัฐบาลเองจึงสนับสนุนให้เปลี่ยนวิธีการฝังศพเป็นการเผาศพแทน แล้วนำอัฐินั้นไปลอยอังคารในแม่น้ำ

ส่วนในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีนั้น เป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายบังคับอยู่แล้วว่าจะต้องเอากระดูกไปเก็บไว้ที่สุสาน แต่ด้วยความเชื่อว่าเป็นลางไม่ดีต่อผู้อยู่อาศัยในบ้าน การเก็บเถ้ากระดูกคนตายไว้ที่บ้าน ก็ไม่นิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งจากที่เห็นในละคร หากไม่นำไปล่องเรือลอยอังคารแล้ว ก็จะเผาไว้ก่อนแล้วนำมาเก็บไว้ที่บ้านก่อนจะเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สุสานเสียมากกว่า

ลอยอังคารเหมือนกัน แต่ไม่มีพิธีเหมือนกัน

อย่างที่เกริ่นกันไปว่าคนญี่ปุ่นและเกาหลีจะไม่นิยมเก็บเถ้ากระดูกไว้ที่บ้าน เพราะส่วนใหญ่จะถือกันมาก ดังนั้นแม้จะนำไปล่องเรือลอยอังคารก็ตาม ในส่วนของพิธีกรรมการสวดบูชา การขอขมาต่าง ๆ นั้น จะไม่ได้มีขั้นตอนมากมายเหมือนของประเทศไทย ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีฐานะ จะพายเรือนำอัฐิไปลอยเอง แต่หากมีฐานะขึ้นมาหน่อย จะมีการโปรยดอกไม้ มีการยืนไว้อาลัย และมีประธานในพิธีเช่นเดียวกับของคนไทย

มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงพอจะเข้าใจความหมายของการล่องเรือลอยอังคารกันมากขึ้น ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงแล้ว คือการส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น หรือจะเป็นดินแดนสวรรค์ ซึ่งขั้นตอนในการประกอบพิธีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น แต่สิ่งสำคัญคือจิตใจที่มุ่งหมายให้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับนั้นไปสู่สุคติมากกว่า

5 สถานที่ลอยอังคาร ที่ผู้คนนิยมไปทำพิธีกันมากที่สุด

5 สถานที่ลอยอังคาร ที่ผู้คนนิยมไปทำพิธีกันมากที่สุด

ปัจจุบันการล่องเรือลอยอังคารทำพิธีโปรยเถ้ากระดูกนั้น เริ่มนิยมทำกันเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นไม่ใช่แค่ที่เฉพาะในกรุงเทพมหานคร เพราะพิธีกรรมนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเชื่อของคนไทยในเรื่องโลกหลังความตาย การทำแบบนี้ก็เพื่อส่งดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิใหม่ ไปเกิดใหม่ในโลกที่สงบร่มเย็น รวมไปถึงความเชื่อที่ว่าโลกหน้าของผู้ตายจะเกิดเป็นคนที่มีรูปร่างสวยงาม รวยทรัพย์ จากสิ่งที่โปรยลงไปพร้อมเถ้ากระดูกนั้นด้วย เช่น ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ดอกไม้ที่มีความหมายถึงความร่ำรวย เป็นต้น

5 สถานที่ที่มีผู้นิยมไปทำพิธีล่องเรือลอยอังคารกันมากที่สุด

1.ท่าเรือปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

เป็นหนึ่งสถานที่ที่มีผู้คนนิยมล่องเรือลอยอังคารกันมากที่สุด และมีการประกอบพิธีนี้กันมานานแล้ว ซึ่งเป็นท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้างใหญ่ ตามความเชื่อแล้วหากลอยอังคารกับแม่น้ำที่กว้างใหญ่ ภพหน้าของผู้ล่วงลับจะได้อยู่ในสถานที่ดี ถ้าได้เกิดเป็นคนอีกครั้งก็จะเป็นคนกว้างขวาง ร่ำรวย

2.หน้าวัดหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา

สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เพราะนอกจากผู้เข้าร่วมพิธีจะได้ร่วมทำบุญให้กับผู้ล่วงลับกับวัดนี้แล้ว จุดล่องเรือลอยอังคารแม่น้ำหน้าวัดยังเป็นจุดที่เรียกว่า “สะดือมังกร” หรือ “จุดมงคล” เพราะเป็นจุดที่มองเห็นองค์หลวงพ่อโสธรพอดี ถือว่าเป็นมงคลยิ่งนัก

3.ท่าน้ำวัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร

วัดโกรกกรากนี้เป็นวัดเก่าแก่ และติดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นที่สักการบูชาและถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง หากได้มาเยือนหรือประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ที่วัดแห่งนี้ หรือแม้แต่การลอยอังคารผู้ล่วงลับ ก็จะทำให้ดวงวิญญาณไปสู่สุคติ

4.สโมสรโรงเรียนนายเรือ ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ

สโมสรโรงเรียนนายเรือ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีล่องเรือลอยอังคารกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่ใช่จุดลอยหน้าวัด แต่ก็เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ เดินทางสะดวก แม่น้ำใสสะอาดอีกด้วย

5.กองการฝึก กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ท่าเรือแหลมเทียน จังหวัดชลบุรี

หากต้องการลอยอังคารในจุดท่าเรือที่ใหญ่ ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน และเงียบสงบ แนะนำสถานที่นี้เลย หลายคนนิยมไปสถานที่ที่เกี่ยวกับทหารนี้ เพราะมีความเชื่อว่าดวงวิญญาณผู้ล่วงลับจะเข้มแข็ง โลกภายหน้าจะมีชีวิตมั่นคง

ทั้ง 5 สถานที่ที่ได้แนะนำนี้ เป็นสถานที่ที่ได้ประกอบพิธีล่องเรือลอยอังคารในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 5 แห่งนี้จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะไปทำพิธีที่ไหน สิ่งสำคัญคือ การตั้งจิตอธิษฐานขอขมาส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับด้วยใจจริง และพร้อมปล่อยวางอย่างหมดสิ้น

“พิธีลอยอังคาร” ส่งจิตสุดท้ายของคนที่เรารักสู่สัมปรายภพ

“พิธีลอยอังคาร” ส่งจิตสุดท้ายของคนที่เรารักสู่สัมปรายภพ

พิธีกรรมนี้เป็นความเชื่อที่เผยแพร่สืบต่อกันมานานแล้ว เหตุผลที่คนไทยหันมาส่งดวงวิญญาณด้วยการลอยอังคาร โดยอ้างอิงมาจากศาสนาฮินดูและผู้ที่นับถือศาสนานี้อาศัยอยู่ในประเทศไทย การล่องเรือลอยอังคารของผู้ตาย ตามทฤษฎีแนวความคิดคือ เชื่อว่าร่างกายของมนุษย์เรานั้นเกิดมาจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเมื่อร่างกายสูญสลายไปจะต้องมีการชำระล้างบาปหรือสิ่งไม่ดีที่ได้เคยกระทำไว้ด้วยน้ำ ดังนั้นการโปรยเถ้ากระดูกลงน้ำ เป็นการชำระล้างสิ่งเก่า ๆ เพื่อเริ่มต้นใหม่ นั่นคือ การทำให้ดวงวิญญาณของผู้ตายนั้นไปเกิดใหม่หรือขึ้นสวรรค์

การลอยอังคาร ควรทำตอนไหนดีที่สุด

ถ้าเป็นเรื่องของการส่งจิตดวงวิญญาณด้วยใจ มนุษย์เราจะให้อธิษฐานให้แก่กันหรือปล่อยวางได้ทุกเมื่อ แต่สำหรับพิธีกรรมการล่องเรือลอยอังคารนี้ แม้ไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอน และสามารถเลือกเวลาหรือฤกษ์ยามที่สะดวกได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะนิยมประกอบพิธีกันในช่วงกลางวัน ประมาณเวลา 10.00 – 13.00 น. เพราะหลายท่านจะเลือกทำพิธีนี้หลังจากที่เก็บกระดูกผู้ตายในช่วงเช้าเสร็จแล้ว จึงเริ่มมาทำพิธีนี้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมและเสร็จพร้อมกันภายในวันเดียว

ทำไมถึงต้องไหว้แม่ย่านางและเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร

ตามธรรมเนียมของคนไทยที่สั่งสอนกันมา ไม่ว่าจะเข้าออกบ้านใคร หรือทำกิจธุระใดจะต้องมีการขออนุญาตก่อนทุกครั้ง การล่องเรือลอยอังคารทำพิธีส่งดวงวิญญาณคนตายด้วยก็เช่นกัน ตามความเชื่อของคนไทยจะเชื่อว่าเรือทุกลำจะเป็นแม่ย่านางคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ฉะนั้นก่อนจะล่องเรือ จะต้องมีการขออนุญาตด้วยธูปเทียนดอกไม้ก่อนทุกครั้ง

ส่วนเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดรนั้น เป็นชื่อเรียกแทนแม่น้ำใหญ่ ซึ่งแม่น้ำที่กว้างใหญ่นี้ย่อมต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกครองอยู่ การจะลอยหรือนำสิ่งต่าง ๆ ลงสู่แม่น้ำ จึงต้องมีการกล่าวบูชาและขออนุญาตด้วยเช่นกัน เพื่อเปิดทางพร้อมนำทางให้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่จุดหมายยังโลกหน้า หรือภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าเดิม

การล่องเรือลอยอังคารส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ เป็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่สำคัญไปแล้วในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะส่งจิตสุดท้ายของผู้ตายไปสู่สุคติแล้ว ผู้ที่ยังอยู่ยังได้รู้สึกปลดปล่อย ปล่อยวาง เสมือนได้ส่งผู้ล่วงลับไปเกิดใหม่ ไม่มีทุกข์ ไม่มีห่วงในโลกเก่าอีกต่อไป

บริการหลังความตาย “เรือลอยอังคาร” ส่งดวงวิญญาณแด่ผู้ล่วงลับ

บริการหลังความตาย “เรือลอยอังคาร” ส่งดวงวิญญาณแด่ผู้ล่วงลับ

การส่งดวงวิญญาณให้แด่ผู้ล่วงลับนั้น ถือว่าเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งทางพุทธศาสนาตามความเชื่อของคนไทย ที่นิยมนำอัฐิไปล่องเรือลอยอังคารในแม่น้ำหลังจากที่มีการเผาร่างผู้เสียชีวิตและมีการเก็บเถ้ากระดูกเรียบร้อยแล้ว เป็นขั้นตอนสุดท้ายของพิธีส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ โดยมีความเชื่อที่ว่าธาตุทั้ง 4 ที่แตกสลายแล้ว จะรวมตัวเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี

เหตุผลที่ผู้คนนิยมใช้บริการ “เรือลอยอังคาร” กันมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นในซีรีส์ ภาพยนตร์ หรือในชีวิตจริง เราจะเห็นพิธีกรรมหลังความตายด้วยการล่องเรือลอยอังคารกันมากขึ้น เพราะการจะลอยอัฐิผู้ล่วงลับนั้นจะลอยริมแม่น้ำลำคลอง แม่น้ำมูลใกล้เคียงบ้านเรือนของชาวบ้าน หรือริมแม่น้ำไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นการรบกวนการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีบ้านติดแม่น้ำแล้ว การลอยอัฐิตรงริมแม่น้ำ อาจจะดูไม่เหมาะสมหรือไม่ให้เกียรติกับผู้ล่วงลับ ควรจะล่องเรือไปกลางแม่น้ำแล้วลอยอังคารมากกว่า

พิธีกรรมในการลอยอังคารจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนในการทำพิธีกรรมลอยอังคารนั้น จะทำในระหว่างการล่องเรือลอยอังคาร โดยเริ่มตั้งแต่การมีประธานนำสวดบูชาแม่ย่านางเรือ การขออนุญาตแม่ย่านางเรือเพื่อนำอัฐิผู้ล่วงลับโดยสารเรือไปยังกลางแม่น้ำ แล้วต่อมาจึงมีการสวดบูชาเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร ซึ่งเป็นเทพยดารักษาและปกป้องแม่น้ำ เป็นเจ้าสมุทรที่ยิ่งใหญ่ เพื่อขอให้ช่วยนำส่งดวงวิญญาณไปสู่สุคติ หลังจากเสร็จพิธีแล้ว จึงให้ญาติโยมกล่าวคำไว้อาลัย ยืนสงบนิ่งก่อนที่จะเริ่มลอยอังคาร

ดอกไม้ที่นิยมใช้ในการลอยอังคาร

การโปรยดอกไม้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรมในระหว่างล่องเรือลอยอังคาร และส่วนใหญ่จะนิยมใช้ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบหลากหลายสี แต่หากผู้ล่วงลับนั้นมีความชื่นชอบดอกไม้ชนิดอื่นเป็นพิเศษ ก็ไม่เป็นข้อห้ามอะไรที่ญาติผู้ล่วงลับจะนำดอกไม้นั้นมาโปรยด้วยก็ได้ แต่หลายคนก็หาดอกไม้ที่มีความหมายเป็นมงคล ความหมายดีที่แสดงถึงการเกิดใหม่ ความโชคดี นำมาโปรยพร้อมเถ้ากระดูกตามความเชื่อ

พิธีกรรมการ “ลอยอังคาร” ถึงจะไม่ได้เป็นข้อบังคับให้ต้องทำทุกบ้าน แต่หากใครที่สนใจอยากส่งดวงวิญญาณให้ผู้ล่วงลับด้วยการล่องเรือลอยอังคารกลางแม่น้ำใหญ่ ไม่ควรล่องเรือไปด้วยตัวเอง ควรจะมองหาผู้ที่เชี่ยวชาญในการขับเรือเป็นประจำ และคุ้นเคยอยู่กับสายน้ำนั้น เพราะยิ่งหากเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ ย่อมมีน้ำไหลลึกและเชี่ยว เพื่อความปลอดภัยและให้การส่งดวงวิญญาณนั้นลุล่วงไปด้วยดี อย่างน้อยก็ควรให้คนที่ขับเรือเก่ง ๆ พาไปดีกว่า