“เรือลอยอังคาร” พาหนะสุดท้ายแห่งสัมปรายภพ

“เรือลอยอังคาร” พาหนะสุดท้ายแห่งสัมปรายภพ

หลายคนมองว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ารื่นรมย์นัก เราจึงหวาดกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับความตายไม่ใช่น้อย แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญก็ตาม คนไทยมีความเชื่อเรื่องความตายตามหลักของพุทธศาสนาที่บอกไว้ว่า ความตายคือการดับสูญของขันธ์ 5 อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ หลงเหลือไว้เพียงแค่เถ้าถ่าน หรือก็คืออังคารนั่นเอง การลอยอังคารโดยใช้บริการจากเรือลอยอังคารจึงเริ่มเกิดขึ้น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ความเชื่อเรื่องการนั่งเรือกับความตายและการนั่งเรือลอยอังคารเพื่อส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ

ชาวตะวันตกมีความเชื่อเรื่องของการนั่งเรือกับความตาย โดยมีสำนวนเก่าแก่ราว 400 ปีที่แล้วสำนวนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “to take the ferry” ในยุคกรีกโบราณเชื่อกันว่าเมื่อคนเราตายไปแล้วนั้น ดวงวิญญาณจะเดินทางไปสู่ยมโลก หรือโลกหลังความตาย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นดินแดนของเทพเฮดิส ระหว่างนั้นดวงวิญญาณจะต้องข้ามแม่น้ำแอเครอนไปให้ได้ โดยการนั่งเรือข้ามฟากที่พายโดยแครอน และมีค่าโดยสารเป็นเงินปากผีที่ใส่ไว้ในศพผู้ตายนั่นเอง การนั่งเรือข้ามฟากจึงเป็นคำพูดแทนอ้อม ๆ ถึงความตาย หรือถ้าคนไหนที่ตายก็จะพูดกันว่าคนคนนั้นได้นั่งเรือข้ามฟากไปสู่ยมโลกแล้ว

เช่นเดียวกับชาวฮินดูที่เชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์นั้นประกอบด้วยธาตุหลักทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อร่างกายสูญสลาย ก็ควรได้กลับไปสู่สภาพเดิม โดยเชื่อกันว่าธาตุน้ำเป็นสิ่งสงบ เย็น และชุ่มชื่น อีกทั้งน้ำยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสรรพชีวิตบนโลก การที่ดวงวิญญาณของผู้ตายจะไปสู่สัมปรายภพได้นั้นจะต้องได้รับความสงบร่มเย็นดั่งสายน้ำ จึงมีการนั่งเรือลอยอังคารนำอัฐิและเถ้าถ่านไปลอยในแม่น้ำ หรือทะเล เพื่อให้ผู้ตายเดินทางไปสู่สัมปรายภพด้วยความฉ่ำเย็น

การนั่งเรือลอยอังคารและพิธีลอยอังคารที่นิยมปฏิบัติในปัจจุบัน

ปัจจุบันผู้คนนิยมลอยอังคารกันมากขึ้น โดยนิยมปฏิบัติดังนี้

1.เริ่มต้นพิธีด้วยการบูชาแม่ย่านางเรือ โดยผู้ทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีจะลงเรือลอยอังคารแล้วนำดอกไม้สด ธูปเทียนในพานจุดบูชาแม่ย่านางเรือที่บริเวณหัวเรือ เพื่อกล่าวบูชาและขออนุญาตก่อนจะนำเถ้ากระดูกขึ้นเรือ และออกเรือไปยังจุดที่ต้องการ

2.บูชาเถ้ากระดูกที่นำมาลอย โดยเมื่อเรือลอยอังคารแล่นมาถึงจุดทำพิธี จะมีการเปิดภาชนะที่ใส่อังคาร สรงด้วยน้ำอบ แล้วโรยด้วยดอกไม้ เช่น มะลิ กลีบกุหลาบ และดอกไม้อื่น ๆ จากนั้นจะห่อเถ้ากระดูกด้วยผ้าขาว ผูกด้วยสายสิญจน์ และพวงมาลัย บรรดาญาติจะได้รับดอกกุหลาบคนละ 1 ดอก

3.บูชาเจ้าแม่นทีและท้าวสีทันดร พิธีนี้จะมีการจัดเตรียมเครื่องบูชาอันประกอบไปด้วยกระทงดอกไม้เจ็ดสี 1 กระทงธูป 7 ดอก เทียนหนัก 1 บาท 1 เล่ม พานโตกขนาดกลาง 1 ใบสำหรับวางกระทงดอกไม้เจ็ดสี โดยประธานจะเป็นผู้กล่าวบูชาและขอฝากเถ้ากระดูกไว้กับเจ้าแม่นทีและท้าวสีทันดร

4.เริ่มพิธีลอยอังคารโดยประธานจะโยนเหรียญลงทะเลเพื่อซื้อที่ตามความเชื่อ จากนั้นจะลอยกระทงดอกไม้เจ็ดสี และเถ้าอังคารบนผิวน้ำ โดยผู้ร่วมพิธีทุกคนจะถือสายสิญจน์ไว้ในมือ ก่อนจะตามมาด้วยดอกกุหลาบ ธูปเทียน และสิ่งของที่เหลืออื่น ๆ จากการบูชา จากนั้นเรือจะแล่นวนซ้าย 3 รอบ ถือเป็นการเสร็จสิ้นพิธีการ

พิธีการลอยอังคารเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่จำเป็นที่จะต้องกระทำในทุกครั้งเมื่อมีผู้เสียชีวิต บางครอบครัวอาจต้องการเก็บเถ้ากระดูกเอาไว้เพื่อบูชา แต่ถึงกระนั้นเรือลอยอังคารก็ถือเป็นพาหนะสุดท้ายที่ทำหน้าที่ส่งดวงวิญญาณของคนที่รักไปสู่สัมปรายภพ…บ้านอันแท้จริงของสรรพสิ่งทั้งปวง

5 วัดที่นิยมนั่งเรือไปทำพิธีลอยอังคารของจังหวัดนนทบุรี

5 วัดที่นิยมนั่งเรือไปทำพิธีลอยอังคารของจังหวัดนนทบุรี

นนทบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก และเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ในเส้นทางการไหลของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางหลักที่นิยมทำพิธีลอยอังคารกันมาก อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่มีวัดอยู่มากมายหลากหลายแห่ง และแต่ละแห่งต่างล้วนเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่โบราณแทบทั้งสิ้น วันนี้เรามี 5 วัดที่นิยมนั่งเรือลอยอังคารไปทำพิธีลอยอังคารของจังหวัดนนทบุรีมาฝาก

5 วัดที่นิยมนั่งเรือลอยอังคารในจังหวัดนนทบุรี

1.วัดกู้ หรือวัดพระนางเรือล่ม

วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ความสำคัญของวัดนี้อยู่ตรงที่บริเวณริมน้ำหน้าวัด คือจุดที่เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ล่ม จึงเป็นที่มาของชื่อวัดพระนางเรือล่ม ภายในวัดยังคงเก็บเรือพระที่นั่งที่อับปางเอาไว้ด้วย ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์อายุหลายร้อยปี จุดจอดเรือลอยอังคารบริเวณวัดนี้จะอยู่ตรงหน้าวัด ซึ่งเป็นพระตำหนักพระนางเรือล่ม ระยะเวลารวมพิธีไป-กลับประมาณ 30 นาที

2.วัดเชิงเลน

วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดที่จุดที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย จุดกราบขอพรองค์พญานาคราชหรือเสด็จปู่ภุชงค์นาคราชในท่านั่งสมาธิปฏิบัติธรรม รูปหล่อเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลท้าวมหาพรหม องค์พระพิฆเนศ จุดจอดเรือลอยอังคารของวัดนี้จะอยู่บริเวณสามแยกแม่น้ำหน้าวัดด้านหลังเกาะเกร็ด เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะตามความเชื่อโบราณ การได้ลอยอังคารในสามแยกแม่น้ำถือว่าเป็นเส้นทาง หรือประตูไปสู่อีกภพภูมิหนึ่ง ระยะเวลารวมพิธีไป-กลับประมาณ 30 นาที

3.วัดแดงธรรมชาติ

เป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้รับความนิยมในการเลือกเป็นจุดจอดเรือลอยอังคารเช่นกัน สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2400 ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จุดเด่นของวัดนี้ คือ พระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอุโบสถที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตที่มีอายุกว่า 300 ปี จุดจอดเรือลอยอังคารจะอยู่บริเวณหน้าองค์หลวงพ่อปางนาคปรก 7 เศียรองค์ใหญ่ ในทิศทางน้ำลงใต้ ระยะเวลารวมพิธีไป-กลับประมาณ 40 นาที

4.วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร

เป็นวัดที่อยากแนะนำมาก วัดนี้อยู่ใกล้สะพานมหาเจษฏาบดินทร์ เป็นวัดธรรมยุติติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดจอดเรือลอยอังคารคือบริเวณทางน้ำสามแพร่งลอดผ่านสะพานมหาเจษฏาบดินทร์ ใช้เวลา 5-6 นาที

5.วัดใหญ่สว่างอารมณ์

วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตรงข้ามเกาะเกร็ด สร้างขึ้นมาราว ๆ พ.ศ. 1963 จุดเด่นของวัดคืออุโบสถที่สร้างจากศิลาแลงในสมัยสุโขทัย และตลาดริมน้ำ จุดจอดเรือลอยอังคาร คือ บริเวณท่าน้ำหน้าวัด

ใครที่วางแผนจะทำพิธีลอยอังคาร โดยการจองเรือลอยอังคาร ลองเลือกดูได้เลย ชอบใจบรรยากาศของวัดไหนก็สามารถเลือกใช้บริการได้ตามความชอบเลย

รู้หรือไม่ นั่งเรือไปลอยอังคารเราก็สามารถทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้

รู้หรือไม่ นั่งเรือไปลอยอังคารเราก็สามารถทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้

สุนัขและแมวต่างก็เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลาย ๆ คน และเมื่อพวกมันจากไป ความเศร้าเสียใจก็ย่อมเกิดขึ้นกับผู้เป็นเจ้าของเช่นกัน ในอดีตเมื่อสุนัขหรือแมวต้องจบชีวิตลง ซากของมันจะต้องถูกฝังลงดิน เพื่อกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันมีหลายสถานที่ที่มีบริการรับเผาศพสุนัขและแมวเช่นเดียวกับคน แถมมีบริการเรือลอยอังคารอีกด้วย เพราะเราเองต่างก็มีความเชื่อว่าสุนัขและแมวนั้นก็เป็นชีวิตหนึ่งชีวิตที่มีค่าไม่แพ้มนุษย์อย่างเรา ๆ และก็หวังว่าวิญญาณของพวกมันคงจะไปสู่ภพภูมิที่ดีเช่นเดียวกัน

วิธีการลอยอังคารสัตว์เลี้ยงแสนรักกับเรือลอยอังคาร

การลอยอังคารสัตว์เลี้ยงสามารถทำได้เช่นเดียวกับคน ปัจจุบันมีเรือลอยอังคารหลายแห่งรับจ้างลอยอังคารสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับคน ส่วนวิธีการก็คล้ายกันแต่จะมีความยุ่งยากน้อยกว่า เมื่อเราเก็บอัฐิสัตว์เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ให้นำห่อในผ้าขาว จากนั้นจะนำเอาเถ้าอังคารของสัตว์เลี้ยงของเราตัวนั้นใส่ลงในพาน พรมน้ำอบ และดอกไม้ ซึ่งทางผู้ให้บริการเรือลอยอังคารจะเป็นผู้เตรียมเอาไว้ให้ เมื่อเลือกจุดลอยอังคารที่เหมาะสมได้แล้ว จะมีการท่องคาถา แล้วก็โยนเหรียญซื้อที่ให้กับดวงวิญญาณของสัตว์ที่ตายตัวนั้นเช่นเดียวกับมนุษย์ ก่อนจะกล่าวอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน และที่สำคัญให้กล่าวฝากดวงวิญญาณของสัตว์ตัวนั้นเอาไว้กับพระแม่คงคา ให้ท่านช่วยส่งดวงวิญญาณนั้นไปสู่ภพภูมิที่ดี  จากนั้นก็ปล่อยห่อผ้าขาวที่บรรจุเถ้ากระดูกลงน้ำไป ก่อนจะโยนดอกไม้เพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

9 วัดแนะนำในการเช่าเรือลอยอังคารสัตว์เลี้ยงและทำพิธีฌาปนกิจ

9 วัดต่อไปนี้มีบริการรับจัดพิธีฌาปนกิจศพสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาน้องแมว ไปจนถึงสัตว์อื่น ๆ ตั้งแต่ พิธีพระสวด-เผา-ทำบุญ-ลอยอังคาร ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเช่าเรือลอยอังคาร หรือเอาอัฐิไปลอยอังคารเองก็ได้ จะมีวัดไหนบ้างลองไปดูกัน

  1. วัดผาสุกมณีจักร อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี
  2. วัดตะเคียน อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
  3. วัดน้อยนอก อ. เมืองนนทบุรี จ. นนทบุรี
  4. วัดคลองเตยใน ซอยวัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
  5. วัดทองบน ถนนพระราม 3 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
  6. วัดยาง ซอยสุขุมวิท 77 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
  7. วัดบางบัว ถนนพหลโยธิน 46 เขตบางเขน กรุงเทพฯ
  8. วัดไก่เตี้ย ซอยบรมราชชนนี 33 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
  9. วัดกระทุ่มเสือปลา ซอยอ่อนนุช 67 เขตประเวศ กรุงเทพฯ

สัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวก็เหมือนกับคนหนึ่งคนในยามที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างก็ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่ เมื่อตอนสิ้นลมก็อยากที่จะไปสู่ภพภูมิที่ดีเช่นกัน และการเลือกเรือลอยอังคารสัตว์เลี้ยงก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะนำพาดวงวิญญาณนั้นไปสู่สัมปรายภพอย่างสุข สงบ และฉ่ำเย็น

บริการ “เรือลอยอังคาร” โดยเรือสปีดโบ๊ท ทางเลือกใหม่ของการส่งดวงวิญญาณ

บริการ “เรือลอยอังคาร” โดยเรือสปีดโบ๊ท ทางเลือกใหม่ของการส่งดวงวิญญาณ

พิธีกรรมของชาวพุทธโดยส่วนมากหลังจากที่ฌาปนกิจผู้ล่วงลับแล้ว ก็มักจะเก็บอัฐิเอาไว้เพื่อบูชา แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รับเอาความเชื่อทางศาสนาฮินดูมา นั่นคือ พิธีลอยอังคาร จากความเชื่อในเรื่องของการส่งดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ จึงเกิดพิธีลอยอังคารขึ้นมา หลายครอบครัวมองหาบริการเรือลอยอังคารเพื่อทำพิธีส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย และบริการที่นิยมมากในปัจจุบัน คือ บริการเรือสปีดโบ๊ทนั่นเอง การใช้เรือสปีดโบ๊ทถือเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เพราะมีความสะดวกสบาย และทันสมัย

เรือลอยอังคารสปีดโบ๊ทกับการเดินทางส่งดวงวิญญาณ

การเลือกใช้เรือสปีดโบ๊ทเพื่อทำพิธีลอยอังคารเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเรือสปีดโบ๊ทมีความทันสมัย คล่องตัวในการเดินทาง อีกทั้งมีความเป็นส่วนตัว แถมบรรยากาศดี ๆ กลางทะเลอีกด้วย เรือสปีดโบ๊ทเป็นเรือโดยสารขนาดเล็กที่มีการจดทะเบียนกับกรมเจ้าท่า เจ้าของเรือต้องจดทะเบียนเพื่อขอใบอนุญาตใช้เรือ และมีเขตการเดินเรือแต่ละลำที่ชัดเจน ใช้น้ำมันเบนซินในการขับเคลื่อน เรือลอยอังคารสปีดโบ๊ท คือ การนำเรือสปีดโบ๊ทมาใช้ในการทำพิธีลอยอังคารตามประเพณีความเชื่อที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายแห่ง

การเลือกเรือลอยอังคารสปีดโบ๊ทควรเลือกเรือที่มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยสูง ต้องเป็นเรือที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง มีประกันภัย พนักงานขับเรือต้องมีใบอนุญาตถูกต้องเช่นกัน รวมไปถึงต้องมีใบช่างเครื่องตามที่กรมเจ้าท่ากำหนดไว้ ซึ่งบริษัทให้เช่าเรือโดยส่วนมากมักจะคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่แล้ว จึงไม่น่ากังวลใจมากนัก นอกจากเรื่องของตัวเรือที่นำมาให้เช่าแล้ว บริษัทที่ให้เช่าเรือต้องดำเนินการเรื่องของสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการประกอบพิธีให้แก่ผู้เช่าด้วย ได้แก่ ดอกไม้ไหว้แม่ย่านางเรือ พวงมาลัย กระทงดอกไม้ 7 สี ดอกกุหลาบและกลีบดอกไม้ ดอกไม้บูชาท้าวเวสสุวรรณ พาน โต๊ะทำพิธีและที่ตั้งรูปผู้วายชนม์ ธูป เทียน กระถางธูป เชิงเทียน ผ้าห่ออัฐิและอังคาร รวมไปถึงสิ่งที่ใช้ประกอบพิธีอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ตามที่ตกลงกันเพิ่มเติม

นอกจากนี้ภายในเรือควรติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยขณะเดินเรือ ได้แก่ เสื้อชูชีพที่ได้รับมาตรฐาน ห่วงยางชูชีพ พายตะขอเกี่ยวสำหรับช่วยคนตกน้ำ ถังออกซิเจนบริสุทธิ์ ไฟเตือนโรตาลี ไฟฉาย แตรเรือ อุปกรณ์ส่งสัญญาณ กล้องส่องทางไกล อุปกรณ์ดับเพลิง วิทยุสื่อสาร หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น ๆ รวมไปถึงเข็มทิศ และแผนที่เพื่อความปลอดภัยขณะเดินเรือเพื่อทำพิธีลอยอังคาร

การปฏิบัติตนก่อนขึ้นเรือลอยอังคารสปีดโบ๊ท

ในระหว่างขึ้นเรือลอยอังคารสปีดโบ๊ท ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพก่อนขึ้นเรือ ยืนรอให้เรือเข้าท่าในบริเวณที่ปลอดภัย หากมีเด็กเล็กเข้าร่วมด้วย ผู้ปกครองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่หยอกล้อหรือเล่นกันขณะที่ก้าวลงเรือ และควรนั่งกระจายเพื่อให้เรือสมดุล ขณะที่ทำพิธี ผู้เข้าร่วมพิธีควรทำพิธีด้วยความสำรวม ไม่นั่งบริเวณที่อาจเกิดอันตราย เช่น บริเวณกราบเรือ ท้ายเรือ ไม่ดื่มสุราหรือสารเสพติดขณะที่ร่วมพิธี ไม่เล่น หรือกระโดดบนเรือ เพราะอาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำหรือเสียสมดุลได้ และที่สำคัญควรเชื่อฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่บนเรืออย่างเคร่งครัด

เรือลอยอังคารสปีดโบ๊ทเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการส่งดวงวิญญาณของผู้วายชนม์สู่สายน้ำตามคติความเชื่อของชาวฮินดู เพราะร่างกายของเราประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงไม่แปลกเลยที่เราจะหวนกลับคืนสู่ตัวตนเดิมเมื่อร่างกายดับสูญ การลอยอังคารจึงเปรียบเสมือนการได้กลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริงของเราอีกครั้งนั่นเอง

ไขข้อสงสัยเหตุใดต้องนั่งเรือไปลอยอังคารที่แม่น้ำมาตั้งแต่โบราณ

ไขข้อสงสัยเหตุใดต้องนั่งเรือไปลอยอังคารที่แม่น้ำมาตั้งแต่โบราณ

คนไทยโบราณมีความเชื่อเรื่องของการลอยอังคารมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล สืบเรื่อยมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ โดยได้รับคติความเชื่อมาจากศาสนาฮินดู ที่เชื่อว่าร่างกายของคนเราคือการหลอมรวมกันของธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ เมื่อสิ้นชีวิตไร้ร่างกายก็เปรียบเสมือนกับการได้หวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ การนั่งเรือลอยอังคารเพื่อนำเถ้ากระดูกของผู้วายชนม์คืนสู่สายน้ำนั้นก็มีขึ้นด้วยความเชื่อที่ว่าคนคนนั้นจะได้เดินทางไปสู่สัมปรายภพด้วยความชุ่มฉ่ำเฉกเช่นความเย็น และความชุ่มชื้นของสายน้ำนั่นเอง

เหตุใดต้องนั่งเรือไปลอยอังคารที่แม่น้ำ

ตามคติความเชื่อของคนไทยโบราณเชื่อกันว่าการนั่งเรือลอยอังคารในแม่น้ำจะทำให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้นมีความร่มเย็นเป็นสุขเสมอเหมือนกับความชุ่มฉ่ำเย็นของสายน้ำ ความเชื่อนี้มาจากประเพณีของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศอินเดียที่มีการเผาศพ แล้วนำเถ้ากระดูก หรือที่เราเรียกว่า “อังคาร” ไปลอยในแม่น้ำคงคาที่ชาวอินเดียทุกคนเชื่อกันว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งสรวงสวรรค์ การได้เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำคงคาก็เปรียบได้ว่าคนคนนั้นได้เข้าถึงสรวงสวรรค์ การหมดบาป และการได้เกิดใหม่ในโลกหน้าที่ดีกว่าเดิม สำหรับในประเทศไทยนั้นประเพณีลอยอังคารเป็นการปฏิบัติของเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น และมีการปฏิบัติสืบเนื่องต่อกันมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ก่อนที่จะเริ่มนิยมปฏิบัติแพร่หลายกันมากขึ้นในหมู่พระญาติ ชนชั้นสูง ข้าราชการ พ่อค้า และคนทั่วไป

เหตุผลที่ต้องนั่งเรือลอยอังคารก็เพราะว่าเมื่อประเพณีการลอยอังคารเริ่มได้รับความนิยม และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมากขึ้น ผู้คนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำจำเป็นต้องใช้เรือเป็นพาหนะนำเถ้ากระดูกสู่สายน้ำ การเช่าเรือลอยอังคารจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้บริการแก่ผู้ที่ต้องการกระทำพิธีกรรมนี้นั่นเอง การใช้เรือลอยอังคารก็ต้องมีการจองกันล่วงหน้า เพราะไม่ใช่แค่มีเรือแล้วก็ลอยอังคารได้เลย แต่ต้องมีการทำพิธีการทางศาสนาก่อน ถึงจะทำการลอยอังคารได้

ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องนั่งเรือลอยอังคาร

1.เตรียมพร้อมทางด้านร่างกาย ถ้าเป็นคนที่เมาเรือ ต้องรับประทานยาแก้เมาเรือมาก่อนขึ้นเรือ และพยายามไม่มองตามขณะที่เรือแล่น เพราะจะทำให้เกิดอาการวิงเวียน หรือตาลายได้

2.เตรียมพร้อมด้านพิธีการ การลอยอังคารมีขั้นตอนของพิธีหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นพิธีการไหว้แม่ย่านางเรือ พิธีขอขมาพระแม่คงคา พระแม่ธรณี พิธีเคารพอัฐิและอังคาร พิธีซื้อที่ให้ผู้วายชนม์กับพระแม่คงคา พิธีขออนุญาตนำอัฐิลอยอังคาร และพิธีลอยอังคาร ดังนั้น ก่อนจะขึ้นเรือจะต้องมีการเตรียมพร้อมเรื่องของพิธีการในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่จำเป็นในการประกอบพิธี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ให้บริการเรือลอยอังคารจะเป็นผู้เตรียมให้ ยกเว้นสิ่งต่อไปนี้ที่จะต้องเตรียมไปเอง ได้แก่ อัฐิที่ต้องการลอยห่อผ้าขาว และเหรียญประมาณ 50 เหรียญ หรือมากกว่านั้นตามความเหมาะสม

3.ตรวจสอบเรือที่นำมาใช้ในพิธี โดยเรือที่ดีนั้นต้องมีการตรวจสอบคุณภาพเรือให้ตรงตามมาตรฐานจากกรมเจ้าท่าทุกปี มีการทำประกันคุ้มครองแก่ผู้โดยสารทุกคน มีเสื้อชูชีพให้บริการ มีการดูแลด้านความสะอาด การฆ่าเชื้อโรคทุกครั้ง รวมไปถึงมีการซ่อมแซมปรับปรุงเรือให้ดูใหม่อยู่เสมอ

ความเชื่อเรื่องของการลอยอังคารจะยังคงอยู่คู่กับคนไทยไปอีกแสนนาน และการนั่งเรือลอยอังคารก็ถือเป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมประเพณีที่ถือปฏิบัติหลังเสร็จสิ้นการฌาปนกิจเพื่อเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าดวงวิญญาณของผู้ที่รักนั้นจะถูกส่งไปยังสัมปรายภพด้วยความสุขที่แท้จริงนั่นเอง

คติธรรมบนเรือลอยอังคาร เมื่อคนตายสบายแล้ว คนที่ยังอยู่ควรทำอะไรต่อ

คติธรรมบนเรือลอยอังคาร เมื่อคนตายสบายแล้ว คนที่ยังอยู่ควรทำอะไรต่อ

คนเราทุกคนมีความแก่ ความเจ็บ และความตายเป็นของธรรมดา สำหรับผู้ตายเมื่อถึงวันที่ญาติพี่น้องนำเถ้ากระดูกขึ้นเรือลอยอังคารแล้วก็คงไม่ต้องรู้สึกถึงความทุกข์อีกต่อไป โจทย์สำคัญสำหรับจิตใจจึงอยู่ที่คนมีชีวิตอยู่ที่ยังอยู่ข้างหลังนั่นเอง เมื่องานศพและพิธีลอยอังคารมาเยือนคนใกล้ชิดของเรา สิ่งที่เราควรทำเมื่อเข้าร่วมพิธีฟังสวดพระอภิธรรมศพและพิธีลอยอังคารก็คือการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับความไม่แน่นอนของชีวิตไว้เตือนใจตนเอง

เข้าใจในความไม่แน่นอนของชีวิต ด้วยคติธรรมวันลอยอังคาร

การลอยอังคารเป็นโอกาสสุดท้ายที่ครอบครัวจะได้ส่งผู้ตายไปยังสถานที่ที่สงบสุข เมื่อเรือลอยอังคารแล่นเข้าสู่น่านน้ำในบริเวณที่ต้องการแล้วทำการลอยอังคารเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สมาชิกในครอบครัวของผู้ตายสามารถนำกลับไปกับตัวได้ก็คือคติธรรมเกี่ยวกับชีวิต เพื่อให้ใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างเป็นปกติสุข

1.ปล่อยวางกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

การปล่อยลุ้งลงสู่ผิวน้ำจนห่างออกจากเรือลอยอังคารแล้ว ก็ให้ปล่อยวางถึงการจากไปของผู้ตายด้วยใจที่สงบ แม้จะมีเรื่องราวในอดีตต่อกันอย่างไรก็ให้ขอบคุณและขอโทษสำหรับความทรงจำที่ผ่านมา ไม่ยึดถือเก็บไปเป็นอคติในใจอีกต่อไป เพราะเมื่อวางเรื่องราวในอดีตออกไป ใจเราก็จะเบา ไม่มีอะไรต้องคิดให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อบุคคลหนึ่งที่จากไปแล้ว

2.ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน

เพราะชีวิตคนเรามีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงไม่สามารถยึดถืออะไรเป็นสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไปได้ ความตายก็เป็นสิ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะมาเยือนเมื่อไร บางคนเมื่อความตายมาเยือนในขณะที่อายุยังน้อยก็อาจสร้างความเสียใจได้มากกว่าผู้ที่ตายเพราะความแก่ชรา แต่นี่เองที่เป็นความไม่แน่นอนของชีวิตที่เราทุกคนต้องยอมรับ

3.ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท

หากยังรู้สึกติดค้างอะไรอยู่กับผู้ตาย เช่น สัญญาต่าง ๆ สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทต่อไป บนเรือลอยอังคารยังต้องมีเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย คนเราก็ต้องตั้งใจใช้ชีวิตโดยมีสติเป็นเสื้อชูชีพบนเรือแห่งชีวิตด้วย ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทเพื่อสร้างความสบายใจให้กับตนเองและผู้อื่น

4.ความดีมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง

ร่างกายของคนเราเมื่อตายไปก็สลายไม่คงเหลือเค้าโครงเดิม อีกทั้งทรัพย์สินยังไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เลย สิ่งที่จะยังคงอยู่จึงมีเพียงแค่คุณงามความดีที่ทำไว้เท่านั้น ความดีและความมีเมตตาของคนเราจะอยู่ในความทรงจำของคนที่อยู่ข้างหลัง หากคนข้างหลังร่วมใจกันจัดหาเรือลอยอังคารมาเพื่อส่งผู้ตาย แสดงให้เห็นว่ายามมีชีวิตอยู่ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าเอาไว้แล้ว

5.ธรรมชาติเป็นสิ่งสวยงาม เมื่อได้มาก็ต้องคืนไป

แม้ว่าจะไม่เชื่อเรื่องศาสนาหรือการเวียนว่ายตายเกิด แต่อย่างน้อยที่สุดคนเราต้องได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบตัว คนเราทุกคนก่อกำเนิดมาจากธรรมชาติ หยิบยืมพลังงานต่าง ๆ มาใช้ในการดำรงชีวิต เมื่อถึงเวลาก็จะต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติดังเดิม เป็นวิถีที่สวยงามที่สุดแล้วตามธรรมชาติของโลกใบนี้

เรือลอยอังคารส่งผู้ตายไปสู่จุดหมายแล้ว คนที่ยังอยู่ก็จงปักจุดมุ่งหมายของชีวิตไว้ในใจ มีสติกำกับไว้ไม่ให้ประมาทในเรื่องต่าง ๆ ยึดถือความดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิต เมื่อถึงวันที่อังคารของตัวเองถูกลอยบ้างก็จะได้ชื่อว่าได้ชีวิตอย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง

พิธีลอยอังคารแบบทหารเรือ อาชีพทรงเกียรติกับวาระสุดท้าย

พิธีลอยอังคารแบบทหารเรือ อาชีพทรงเกียรติกับวาระสุดท้าย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่อาศัยน่านน้ำในการดำรงชีวิต อาชีพที่อยู่กับแม่น้ำและทะเลจึงเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน อย่างเช่นอาชีพทหารเรือที่มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานีมาแล้ว เพียงแต่การเรียกชื่อและหน้าที่อาจมีความแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ทหารเรือทำหน้าที่ปกป้องน่านน้ำของประเทศอยู่บนเรือ จนกระทั่งในวาระสุดท้ายครอบครัวของพวกเขาก็อาจส่งพวกเขาอยู่บนเรือลอยอังคาร อันเป็นสถานที่ที่จะทำให้ทหารเรือนั้นได้อยู่อย่างสงบในที่ที่ร่มเย็น

เมื่อทหารเรือเสียชีวิต หลังจากนั้นต้องทำอย่างไร

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หน้าที่ของทหารเรือคือการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ ช่วยทำให้การคมนาคมทางทะเลเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่น นอกจากนี้ยังต้องสนับสนุนงานด้านการรักษาความมั่นคงของประเทศที่จะต้องส่งเสริมกองทัพเหล่าอื่น ๆ ด้วย เพื่อเป็นการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน หลังจากที่ทหารเรือเสียชีวิต การจัดการพิธีศพของทหารเรือจึงควรได้รับการจัดการอย่างสมเกียรติ

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการจัดหาเรือลอยอังคาร สิ่งที่ครอบครัวของทหารเรือผู้เสียชีวิตควรทราบ ก็คือระบบระเบียบต่าง ๆ ของการฌาปนกิจสงเคราะห์ ครอบครัวสามารถแจ้งรับเงินสงเคราะห์ได้ โดยเตรียมหลักฐานเอกสารต่าง ๆ ไปยื่นต่อกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ ทั้งของทหารเรือผู้เสียชีวิตเองและสมาชิกในครอบครัวที่จะไปรับเงินสงเคราะห์นั้น

หลังจากนั้น กิจการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวีจะเป็นผู้จัดการขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไปเพื่อให้พิธีการจัดการศพเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยศพของทหารเรือจะได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ รับพระราชทานเพลิงศพ มีกองทหารเกียรติยศซึ่งเป็นพลแตรเป่าสัญญาณแตรนอน สื่อความหมายถึงวันคืนอันเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมา หลังจากบำเพ็ญกุศลครบตามกำหนดก็จะเป็นการขอเรือลอยอังคารตามลำดับถัดไป

ลำดับพิธีการ ของการลอยอังคารแบบทหารเรือ

พิธีการลอยอังคารโดยกองทัพเรือจะมีการจัดพิธีอย่างสมเกียรติ ณ ท่าเทียบเรือลอยอังคาร หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนหลักของการลอยอังคาร 4 ขั้นตอน ได้แก่ การไหว้แม่ย่านางของเรือลอยอังคารที่จะใช้ก่อนนำอัฐิและอังคารขึ้นไปประกอบพิธีบนเรือ, การไหว้อังคารของทหารเรือผู้เสียชีวิต, การบูชาเจ้าแม่นทีและท้าวสีทันดร และการลอยอังคารเป็นลำดับสุดท้าย หลังจากนั้นพิธีกรจะกล่าวเชิญให้สมาชิกทุกคนยืนไว้อาลัยประมาณ 1 นาที แล้วจึงค่อย ๆ นำอังคารลงจากเรือลอยอังคารเพื่อลอยลงสู่ผิวน้ำ เรือจะขับวนซ้ายในบริเวณนั้น 3 รอบ ส่งดวงวิญญาณของทหารให้ไปสู่สุคติภูมิ

การทำงานไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม เมื่อวันสุดท้ายมาถึงผู้คนจะจดจำในสิ่งที่ทำมากกว่าทรัพย์สินเงินนอกหรือของภายนอกที่ห่อหุ้มร่างกาย อาชีพทหารเรือก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีบทบาทสำคัญต่อประเทศ เรือลอยอังคารที่ใช้ส่งทหารเรือในวาระสุดท้ายของชีวิตก็เปรียบเสมือนการเดินทางครั้งสุดท้าย ซึ่งจะอยู่ในความทรงจำของครอบครัวตลอดไป

สถานที่จอดเรือลอยอังคาร หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรเลือกอย่างดี

สถานที่จอดเรือลอยอังคาร หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรเลือกอย่างดี

ชีวิตของคนไทยเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย จึงมีการประดิษฐ์และสร้างสรรค์พิธีกรรมต่าง ๆ ให้สวยงาม เหมาะแก่การเป็นที่จดจำในแต่ละช่วงชีวิต พิธีลอยอังคารก็เช่นกัน นอกจากการเลือกใช้บริการเรือลอยอังคารและการตระเตรียมสิ่งของต่าง ๆ แล้ว ยังต้องเลือกสถานที่ลอยอังคารที่เหมาะสมอีกด้วย ซึ่งแต่ละครอบครัวที่ต้องการทำพิธีลอยอังคารให้กับผู้ตายก็มีหลักเกณฑ์ในการเลือกสถานที่แตกต่างกันไป

การเลือกสถานที่ลอยอังคารตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ

การพิจารณาเลือกสถานที่ลอยอังคารไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเกินไป เพียงยึดตามความสะดวกของครอบครัวเป็นหลัก เลือกบริการเรือลอยอังคารที่ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกครอบครัวได้ โดยมีเกณฑ์ที่ช่วยให้การเลือกสถานที่ทำได้ง่ายขึ้นดังนี้

1.ระยะทางในการเดินทาง

ถึงแม้สถานที่ลอยอังคารจะสวยงามน่าจัดพิธีมากแค่ไหน แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่อยู่ไกลจนเกินไป อาจเป็นภาระทางค่าจ่ายเพิ่มขึ้นก็ได้ หากเป็นการลอยอังคารในแม่น้ำขนาดใหญ่หรือทะเล ควรฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของเรือลอยอังคารในการเลือกสถานที่ต่าง ๆ ที่ปลอดภัยต่อการเดินทาง ไม่ไกลจากฝั่งมากเกินไป

2.คุณภาพและความน่าเชื่อของบริการเรือลอยอังคาร

บริการเรือลอยอังคารมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าทางครอบครัวผู้ตายสะดวกแบบใด แต่ถ้าจะให้ดีสถานที่ที่มีเรือลอยอังคารไว้บริการนั้นควรเป็นสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือ เรือขึ้นทะเบียนถูกต้อง พนักงานผู้ขับเรือมีใบรับรองต่าง ๆ ตามกฎระเบียบของกรมเจ้าท่าอย่างครบถ้วน มีเสื้อชูชีพที่ได้มาตรฐานไว้บริการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกคน

3.ความเชื่อที่ยึดถือร่วมกัน

สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกสถานที่ลอยอังคารคือความเชื่อที่คนในครอบครัวยึดถือร่วมกัน เลือกสถานที่ที่ทุกคนสบายใจที่จะส่งผู้ตายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เป็นบ้านเกิด สถานที่ที่สอดคล้องกับความเชื่อทางศาสนา หรือสถานที่ที่มีความสวยงาม เหมาะแก่การเป็นที่อยู่ของอังคารผู้ตาย

แนะนำสถานที่ลอยอังคาร ได้ภาพสวยวิวดีต่อใจ

สำหรับสถานที่ลอยอังคารที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นวัดที่มีบรรยากาศสงบ ร่มเย็น และยังมีความสวยงามให้ได้ชื่นตาชื่นใจอีกด้วย จะมีวัดอะไรที่น่าสนใจสำหรับการลอยอังคารบ้างนั้น ลองเลือกดูตามสถานที่เหล่านี้ได้เลย

1.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเทพมหานครแล้ว วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการลอยอังคารด้วย โดยเรือลอยอังคารจะจอดอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่สามารถมองเห็นวิวพระปรางค์อย่างชัดเจน

2.วัดแดงธรรมชาติ

วัดแดงธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีจุดเด่นสำคัญคือพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวปางนาคปรกที่ตั้งประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำ เหมาะกับการลอยอังคารหน้าองค์พระที่สวยงาม มองเห็นได้อย่างชัดเจน

3.วัดกู้ ปากเกร็ด

อีกหนึ่งวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาคือวัดกู้ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จุดเด่นคือวิวศาลาสีขาวสวยงาม ซึ่งเป็นศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งเคยเป็นสถานที่พักพระศพชั่วคราว จึงเป็นที่มาของชื่อวัดกู้นั่นเอง

เรือลอยอังคารจะช่วยให้ครอบครัวส่งอังคารของผู้ตาย ณ จุดที่เหมาะสม มีความสวยงาม ร่มเย็น เป็นการจากลาครั้งสุดท้ายที่อยู่ในความทรงจำของสมาชิกทุกคนอย่างยาวนาน สถานที่ที่จะลอยอังคารจึงมีความสำคัญต่อการส่งกันครั้งสุดท้ายนั่นเอง

สิ่งของที่ใช้ในพิธีบนเรือลอยอังคาร มีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมให้พร้อม

สิ่งของที่ใช้ในพิธีบนเรือลอยอังคาร มีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมให้พร้อม

พิธีกรรมหรือประเพณีต่าง ๆ ตามความเชื่อทางศาสนาของคนไทยมักมีขั้นตอนและสิ่งของมากมาย รวมถึงพิธีกรรมส่งผู้ตายครั้งสุดท้ายอย่างการลอยอังคาร ที่ต้องอาศัยพิธีกรในการดำเนินกิจกรรมตามลำดับขั้นตอนต่าง ๆ ไปจนถึงการเตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับพิธีด้วย หลายคนอาจมองว่ายุ่งยาก แต่ในปัจจุบันบริการเรือลอยอังคารสามารถจัดเตรียมสิ่งของและลำดับพิธีการให้ผู้ใช้บริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็วแล้ว สิ่งที่ผู้ใช้บริการควรรู้มีเพียงแค่การรู้จักสิ่งต่าง ๆ ว่าอะไรคืออะไรเท่านั้น

ขั้นตอนสำคัญของพิธีลอยอังคาร และสิ่งของในแต่ละขั้นตอน

พิธีลอยอังคารมีทั้งแบบพิธีเต็มที่มีลำดับการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามขั้นตอน และพิธีแบบเรียบง่ายที่รวบรัดให้เหลือเพียงกิจกรรมสำคัญ ๆ บนเรือลอยอังคาร เช่น การไหว้อังคารและเข้าสู่การลอยอังคารก็เป็นอันจบพิธี สำหรับผู้ที่ต้องการให้มีพิธีการลอยอังคารแบบเต็มนั้นมีขั้นตอนที่ควรรู้ ดังนี้

1.การไหว้แม่ย่านางเรือ

แม่ย่านางคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยรักษาพาหนะต่าง ๆ การใช้เรือลอยอังคารจึงต้องไหว้แม่ย่านางที่อยู่ประจำเรือเพื่อบอกกล่าวให้ทราบและให้ช่วยคุ้มครอง เชื่อกันว่าแม่ย่านางสิงสถิตอยู่ที่หัวเรือหรือโขนเรือ สิ่งของที่ใช้ไหว้มีพานที่ใส่ดอกไม้สด ธูป และเทียนเพื่อไหว้บูชา เมื่อไหว้เสร็จแล้วดอกไม้ ธูป และเทียนจะถูกมัดด้วยเชือกที่หัวเรือ

2.การไหว้อังคาร

ขั้นตอนต่อมาเป็นการไหว้อังคารด้วยเครื่องไหว้ต่าง ๆ ซึ่งอาจทำก่อนหรือหลังขึ้นเรือก็ได้ สิ่งของสำคัญสำหรับการไหว้อังคารคือลุ้งบรรจุอังคารนั่นเอง ลุ้งคือห่อผ้าขาวที่บรรจุอังคารของผู้ตายไว้ หรืออาจเป็นรูปแบบโถดินเผาแล้วจึงห่อด้วยผ้าขาวอีกที สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีธูป เทียน น้ำอบไทย กลีบดอกไม้ ผ้าขาว สายสิญจน์ และพวงมาลัย

3.การไหว้เจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดร

การไหว้เจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดรก็คือการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองน่านน้ำที่เราไปทำพิธีลอยอังคารนั่นเอง สิ่งของที่ใช้จะมีเงินเหรียญเพื่อโยนลงไป เป็นความเชื่อเรื่องการซื้อที่ให้กับอังคารของผู้ตาย นอกจากนี้ยังมีกระทงดอกไม้เจ็ดสี และสายสิญจน์สำหรับทำสาแหรกเพื่อค่อย ๆ หย่อนกระทงจากเรือลอยอังคารลงไปยังผิวน้ำหากไม่สามารถเอามือวางกระทงเองได้ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนลอยอังคาร โดยการยืนไว้อาลัยตามเวลาอันสมควร แล้วค่อย ๆ ลอยลุ้งลงไปบนผิวน้ำ แล้วปล่อยให้ลุ้งไหลไปตามกระแสน้ำอย่างที่ควรจะเป็น แล้วปล่อยวางจิตใจให้สงบ

นอกจากการวางแผนเตรียมการ และเตรียมสิ่งของสำหรับพิธีลอยอังคารแล้ว ผู้ใช้บริการเรือลอยอังคารควรเตรียมสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งไปกับตัวเองด้วย นั่นก็คือการเตรียมใจเพื่อส่งให้คนที่รักไปสู่ภพภูมิที่ดี เมื่อไปส่งอย่างดีในสถานที่ที่สวยงามแล้วก็ถึงเวลาปล่อยวางและใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุดต่อไป

ที่มาของเรือลอยอังคาร ต้นตอประเพณีส่งผู้ล่วงลับสู่สุคติ

ที่มาของเรือลอยอังคาร ต้นตอประเพณีส่งผู้ล่วงลับสู่สุคติ

การลอยอังคาร เป็นหนึ่งในพิธีกรรมตามคติความเชื่อว่าจะทำให้ผู้ตายไปสู่ภพภูมิที่ดี อีกทั้งยังเป็นพิธีที่มีขึ้นเพื่อให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่สบายใจมากยิ่งขึ้น เพราะได้กระทำสิ่งที่ดีให้กับผู้วายชนม์แล้ว ในปัจจุบันบริการเรือลอยอังคารคือการปรับตัวของยุคสมัยอย่างหนึ่งสำหรับพิธีลอยอังคารที่มีมาอย่างยาวนาน เราเคยนึกสงสัยกันไหมว่าพิธีลอยอังคารมีมาตั้งแต่เมื่อไร

ความหมายของคำว่าอังคาร

คำว่า “อังคาร” ตามความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานหมายถึง เถ้าถ่านของศพที่เผาแล้ว คือตัวถ่านไม้หรือถ่านเผาไฟ ไม่ได้หมายถึงกระดูกของผู้ตายเพียงอย่างเดียวที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจกัน การลอยอังคารจึงเป็นการนำเถ้าถ่านจากการเผาศพผู้ตายไปลอยน้ำ สาเหตุที่ต้องนำอังคารไปทำพิธีอยู่บนเรือลอยอังคารกลางแม่น้ำหรือทะเลที่มีร่องน้ำลึกนั้น เป็นเพราะความเชื่อที่ว่าจะทำให้ผู้ตายได้อยู่ในสถานที่อันสงบสุข ร่มเย็น ปราศจากซึ่งสิ่งรบกวนต่าง ๆ

คติความเชื่อจากอินเดีย และประเพณีของชนชั้นสูงในไทย

ที่มาของประเพณีลอยอังคารไม่ได้เป็นประเพณีดั้งเดิมตามความเชื่อของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ เนื่องจากในสมัยก่อนเมื่อคนไทยเผาศพผู้ตายแล้วมักนำไปฝังแล้วก่อกองดินตั้งไว้เรียกว่า สถูป หรืออีกวิธีหนึ่งคือเอาไปกองไว้กับโคนต้นไม้ กลับกันหากผู้ตายเป็นคนชนชั้นสูงก็จะสร้างพระเจดีย์ในวัดเพื่อบรรจุอัฐิธาตุไว้ภายในเจดีย์ หากมียศศักดิ์รองลงมาก็จะเป็นเจดีย์ที่อยู่ด้านนอกบริเวณวัด ไม่ได้นำพระอัฐิไปขึ้นเรือลอยอังคารในแม่น้ำแต่อย่างใด

ประเพณีลอยอังคารได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย จากความเชื่อตามศาสนาฮินดูที่ว่าแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถชำระล้างบาปให้กับผู้ตายได้ ชาวอินเดียจึงนำศพหรือเถ้ากระดูกของผู้ตายไปลอยที่แม่น้ำคงคา เมื่อความเชื่อนี้มาถึงไทย ได้เริ่มต้นจากชนชั้นเชื้อพระวงศ์ในสมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก่อน แล้วจึงค่อยแพร่หลายในหมู่สามัญชน ในขณะที่การลอยอังคารของเชื้อพระวงศ์ยกเลิกไปแล้ว ปัจจุบันก็ยังคงมีพิธีลอยอังคารในกลุ่มคนทั่วไป ธุรกิจบริการเรือลอยอังคาร จึงเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งมีการเตรียมพร้อมทั้งอุปกรณ์และพิธีกรรมต่าง ๆ อย่างเสร็จสรรพ ให้ญาติมิตรของผู้ตายได้ทำพิธีส่งคนที่พวกเขารักเป็นครั้งสุดท้ายอย่างดีที่สุด

การลอยอังคารไม่ใช่พิธีการที่ยุ่งยากหรือน่ากังวลเนื่องจากบริการเรือลอยอังคารช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี สิ่งที่คนที่ยังอยู่ต้องทำต่อหลังจากนั้นต่างหากที่สำคัญ การลอยอังคารก็เปรียบเสมือนกับการปล่อยวาง เข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต เป็นการเตือนสติให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทต่อไป