ไขความจริงในพิธีลอยอังคาร เถ้ากระดูกคนตายเป็นมลพิษต่อน้ำหรือไม่
ปัจจุบันเมื่อมีได้ทำการฌาปนกิจผู้ตายแล้ว หลายคนมักจะนิยมนำเถ้ากระดูกไปล่องเรือลอยอังคารแล้วลอยสู่แม่น้ำ โดยมีความเชื่อว่าจะช่วยดวงวิญญาณให้จากไปอย่างสงบสุข หมดห่วง ไปสู่สรวงสวรรค์และร่มเย็นดุจดั่งสายน้ำ และยังมีความเชื่อว่าชาติหน้ามีจริง เมื่อสิ่งสุดท้ายที่ได้กระทำก่อนปล่อยดวงวิญญาณให้ไปสู่สุคติเป็นเช่นไร ก็จะทำให้เกิดใหม่เป็นไปตามสภาพนั้น อย่างการลอยอังคารสู่แม่น้ำ การเกิดใหม่ในโลกหน้าจะมีร่างกายที่สมบูรณ์ ชีวิตมีความสุข ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ
เถ้ากระดูกหรือ อัฐิ มีสารอันตรายหรือไม่
การล่องเรือลอยอังคารแล้วลอยอัฐิผู้ล่วงลับในแม่น้ำ ยังมีหลายคนที่เข้าใจผิดและมองว่าเถ้าถ่านของกระดูกนั้นมีสารอันตรายและอาจจะทำให้แม่น้ำนั้นไม่สะอาด แต่ความเป็นจริงแล้วเถ้ากระดูกไม่ได้มีสารปนเปื้อนที่อันตรายแต่อย่างใด แม้ในขณะที่ผู้ล่วงลับนั้นมีชีวิตอยู่ แล้วเคยมีโรคประจำตัว ต้องทานยาเป็นประจำ หรือเสพของมึนเมาบ่อยแค่ไหนก็ตาม
แต่เมื่อเสียชีวิตลง และร่างถูกเผาจนเหลือกระดูกแล้ว ก็เป็นเพียงเถ้าถ่านธรรมดาเท่านั้นที่เมื่อปล่อยทิ้งบนดินก็สลายกลายเป็นอากาศ ฝังลงในดินก็กลายเป็นปุ๋ย และต่อให้ลอยลงสู่แม่น้ำก็ถูกกลืนสลายหายไป
การ “ลอยอังคาร” ควรลอยในแม่น้ำใหญ่
จริงอยู่ที่ว่าเถ้าถ่านกระดูกผู้ตายไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิตต่อผู้ใด แต่เมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่อยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ต่างคนต่างความคิด หลายคนที่ใช้ชีวิตมีบ้านเรือนติดอยู่กับแม่น้ำ จะต้องมีการใช้น้ำอุปโภคและบริโภค การล่องเรือลอยอังคารอัฐิผู้ล่วงลับ จึงควรกระทำในสถานที่ที่เป็นแม่น้ำใหญ่ อยู่ห่างไกลชุมชน เป็นสายน้ำไหลผ่าน ไม่ใช่น้ำนิ่งจะดูเหมาะสมกว่า
และชาวบ้านหลายคนที่มีความเชื่อเรื่องผีสาง ก็มักจะถือเรื่องเถ้ากระดูกคนตายเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่เป็นมงคลต่อการใช้ชีวิต หากจะต้องใช้น้ำที่มีคนมาลอยอังคารผู้ล่วงลับ อาจจะเกิดความไม่สบายใจ และทำให้สุขภาพจิตเสียได้
สรุปแล้วเถ้ากระดูกไม่ได้เป็นอันตรายและมีสารเคมีเจือปน เพราะไม่อย่างนั้นคงมีกฎหมายออกมาห้ามไม่ให้ทำพิธีกรรมลอยอังคารตั้งแต่แรกแล้ว แต่หากอยากส่งจิตสุดท้ายให้กับคนที่เรารักจริง ๆ ควรจะเลือกสถานที่ล่องเรือลอยอังคารที่ห่างไกลชุมชน และเป็นแม่น้ำใหญ่จะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสภาพจิตใจของชาวบ้านใกล้เคียงและเพื่อความสบายใจของญาติผู้ล่วงลับเองด้วย