“พิธีลอยอังคาร” ส่งจิตสุดท้ายของคนที่เรารักสู่สัมปรายภพ
พิธีกรรมนี้เป็นความเชื่อที่เผยแพร่สืบต่อกันมานานแล้ว เหตุผลที่คนไทยหันมาส่งดวงวิญญาณด้วยการลอยอังคาร โดยอ้างอิงมาจากศาสนาฮินดูและผู้ที่นับถือศาสนานี้อาศัยอยู่ในประเทศไทย การล่องเรือลอยอังคารของผู้ตาย ตามทฤษฎีแนวความคิดคือ เชื่อว่าร่างกายของมนุษย์เรานั้นเกิดมาจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเมื่อร่างกายสูญสลายไปจะต้องมีการชำระล้างบาปหรือสิ่งไม่ดีที่ได้เคยกระทำไว้ด้วยน้ำ ดังนั้นการโปรยเถ้ากระดูกลงน้ำ เป็นการชำระล้างสิ่งเก่า ๆ เพื่อเริ่มต้นใหม่ นั่นคือ การทำให้ดวงวิญญาณของผู้ตายนั้นไปเกิดใหม่หรือขึ้นสวรรค์
การลอยอังคาร ควรทำตอนไหนดีที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องของการส่งจิตดวงวิญญาณด้วยใจ มนุษย์เราจะให้อธิษฐานให้แก่กันหรือปล่อยวางได้ทุกเมื่อ แต่สำหรับพิธีกรรมการล่องเรือลอยอังคารนี้ แม้ไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอน และสามารถเลือกเวลาหรือฤกษ์ยามที่สะดวกได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะนิยมประกอบพิธีกันในช่วงกลางวัน ประมาณเวลา 10.00 – 13.00 น. เพราะหลายท่านจะเลือกทำพิธีนี้หลังจากที่เก็บกระดูกผู้ตายในช่วงเช้าเสร็จแล้ว จึงเริ่มมาทำพิธีนี้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมและเสร็จพร้อมกันภายในวันเดียว
ทำไมถึงต้องไหว้แม่ย่านางและเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดร
ตามธรรมเนียมของคนไทยที่สั่งสอนกันมา ไม่ว่าจะเข้าออกบ้านใคร หรือทำกิจธุระใดจะต้องมีการขออนุญาตก่อนทุกครั้ง การล่องเรือลอยอังคารทำพิธีส่งดวงวิญญาณคนตายด้วยก็เช่นกัน ตามความเชื่อของคนไทยจะเชื่อว่าเรือทุกลำจะเป็นแม่ย่านางคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ฉะนั้นก่อนจะล่องเรือ จะต้องมีการขออนุญาตด้วยธูปเทียนดอกไม้ก่อนทุกครั้ง
ส่วนเจ้าแม่นที ท้าวสีทันดรนั้น เป็นชื่อเรียกแทนแม่น้ำใหญ่ ซึ่งแม่น้ำที่กว้างใหญ่นี้ย่อมต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกครองอยู่ การจะลอยหรือนำสิ่งต่าง ๆ ลงสู่แม่น้ำ จึงต้องมีการกล่าวบูชาและขออนุญาตด้วยเช่นกัน เพื่อเปิดทางพร้อมนำทางให้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่จุดหมายยังโลกหน้า หรือภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าเดิม
การล่องเรือลอยอังคารส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ เป็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่สำคัญไปแล้วในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะส่งจิตสุดท้ายของผู้ตายไปสู่สุคติแล้ว ผู้ที่ยังอยู่ยังได้รู้สึกปลดปล่อย ปล่อยวาง เสมือนได้ส่งผู้ล่วงลับไปเกิดใหม่ ไม่มีทุกข์ ไม่มีห่วงในโลกเก่าอีกต่อไป